PCC สตรอง!! โชว์กำไรปี 65 โต 40.02%
รับรู้หม้อแปลงไฟฟ้า – ติดตั้งอุปกรณ์ระบบศูนย์สั่งจ่ายไฟเพิ่ม
บอร์ดไฟเขียวปันผล 0.14
บ./หุ้น ขึ้น XD 8 พ.ค.นี้
กางแผน 3 ปี (66-68) ปักหมุดรายได้แตะ 6,000 ลบ.ระบบสมาร์ทกริดหนุน
บมจ. พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น (PCC) โชว์ผลการดำเนินงานปี 2565 แข็งแกร่ง กวาดรายได้รวมอยู่ที่ 4,859.99 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 33.57% และมีกำไรสุทธิ 283.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.02%
จากปีก่อน เนื่องจากการขายกลุ่มสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า
กลุ่มสินค้าปรับแรงดัน และงานโครงการจัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์
Hardware และ Software ระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟหนุน ฟากซีอีโอ “กิตติ สัมฤทธิ์”
ระบุปีนี้ยังเติบโตได้ดี เตรียมประมูลโครงการ "สมาร์ทมิเตอร์" ของ กฟภ.
แย้มโรงงานผลิตหม้อแปลง และตู้ควบคุมไฟฟ้าในกัมพูชา จ่อเดินเครื่องภายในไตรมาส 1/2566 พร้อมกางแผนธุรกิจ 3 ปีข้างหน้า (2566-2568)
ตั้งเป้ารายได้แตะ 6,000 ล้านบาท
หวังภาครัฐส่งเสริมการลงทุนระบบสมาร์ทกริดเพิ่มขึ้น
นายกิตติ สัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PCC) เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 4,859.99 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 33.57% จากปีก่อนที่มีรายได้เท่ากับ 3,638.63
ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 283.79 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 40.2% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 202.68
ล้านบาท
“รายได้รวมในปี 2565 เพิ่มขึ้น 1221.36
ล้านบาท หรือ 33.57% จากปี 2564 สาเหตุหลักมาจากการขายกลุ่มสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า
กลุ่มสินค้าปรับแรงดัน และป้องกันกระแสและแรงดันเกินพิกัด สวิตซ์ตัดตอน
และอุปกรณ์ฉนวนในระบบจำหน่ายและกลุ่มโคมไฟแอลอีดีให้กับลูกค้าเอกชนเพิ่มขึ้น
และจากงานโครงการจัดหา พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Hardware และ Software ระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟและสัญญาจ้าง
หาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Feeder Device Interface (FDI) และอุปกรณ์วิทยุสื่อสาร”
นายกิตติ กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ
มีมติจ่ายเงินปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 8 พ.ค. 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 26 พ.ค. 2566 ทั้งนี้จะนำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไปในวันที่
27 เม.ย. 2566
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PCC กล่าวอีกว่า สำหรับแผนธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2566-2568) ตั้งเป้ารายได้แตะ
6,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากการเติบโตของระบบสมาร์ทกริด
ทำให้มีการลงทุนเพิ่มโดยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
อีกทั้งบริษัทมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตของหม้อแปลงไฟฟ้า ตลอดจนการเปลี่ยนเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตให้เป็นเครื่องจักรอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพสูง
โดยในปีนี้บริษัทฯ
ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากจากโครงการเปลี่ยนมิเตอร์จากจานหมุน ให้เป็น สมาร์ทมิเตอร์
ซึ่งเป็นโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
โดยกฟภ.มีแผนจะเปลี่ยนมิเตอร์จำนวน 18 ล้านเครื่องภายใน 7 ปี หรือระหว่างปี 2565-2571 ซึ่งคาดว่าปีนี้เปิดประมูลราว 2 ล้านเครื่อง ซึ่งบริษัทฯมีความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลดังกล่าว
เพื่อสร้างการเติบโตของบริษัทฯอย่างแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ โรงงานผลิตหม้อแปลง
และตู้ควบคุมไฟฟ้า ในกัมพูชา คาดว่าจะเริ่มผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ได้ในไตรมาส 1/2566 นี้ ซึ่งจะสนับสนุนรายได้ให้บริษัทฯ
เพิ่มขึ้น ปีละ 100 ล้านบาท